เช้าวันที่ 2 ในเมืองเกียวโต
แผนการวันนี้ เราจะมุ่งหน้าสู่เขตอาราชิยามา (Arashiyama) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกียวโต และต่อด้วยเขตคินคะคุจิ (Kinkakuji) ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือ
เราจะตั้งต้นที่สถานีเกียวโต นั่งรถไฟ JR สาย Sagano line ลงสถานีปลายทาง Saga Arashiyama ค่าโดยสาร 230 yen
สถานีเกียวโตในเช้าวันอาทิตย์ นอกจากจะเป็นชุมสายรถไฟแล้ว ยังเป็นชุมสายของรถบัสด้วย ที่เห็นนี่..คนมาต่อคิวขึ้นรถบัสกันแต่เช้าเลย |
จะเห็นภูเขาที่ปกคลุมด้วยใบไม้เปลี่ยนสีอยู่ลิบ ๆ.. อาราชิยามา..ปลายทางของนักท่องเที่ยว (น่าจะแทบทุกคน) ที่อยู่ในสถานีตอนนี้ ดังนั้น ไม่ต้องคิดอะไรมาก ..เดินตามเพื่อน ๆ ไป 555
ระหว่างทางที่เดินไปก็มีอะไรน่าสนใจไม่เบื่อเลย
สุนัขน้อยเดินสวนมาพร้อมกับคุณแม่... |
ในที่สุดก็เดินมาจนถึงลานจอดรถของวัดเท็นริวจิ (Tenryuji) ...วันนี้ฟ้าใสดีจริง ๆ |
วัดเท็นริวจิ (Tenryuji) เป็นหนึ่งในวัดสำคัญของเกียวโตที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1339 มีจุดเด่นคือ บ่อน้ำใหญ่ที่รายรอบด้วยโขดหินและสวนสวยรับกับฉากหลังที่เป็นภูเขาอาราชิยามา และทางเดินท่ามกลางป่าไผ่ที่เลี้ยวลดคดเคี้ยวขึ้นไปบนภูเขา เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่ 8.30 - 17.30 ค่าบัตรผ่านประตู 500 yen
เริ่มเห็นตัววัดอยู่ไกล ๆ ส่วนด้านซ้ายมือเป็นซุ้มขายเครื่องรางและของที่ระลึก |
ของที่ระลึกหน้าวัดเท็นริวจิ คนสำคัญชุดแดงนี่ ใครกันน้า ผู้รู้ช่วยตอบด้วย |
นี่ล่ะ สวนสวยรอบบ่อน้ำที่กล่าวถึง |
มุมที่เห็นภูเขาอาราชิยามาเป็นฉากหลัง |
ขออีกสักมุม สีสันแสบตาน่าดูชม |
ตัววัดสร้างด้วยไม้ แม้ผ่านสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ยังคงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี |
ความร่มรื่นของสวนไผ่หลังวัด กลางคืนมี light up ด้วย..คงจะสวยไปอีกแบบ เห็นหยั่งนี้ เป็นเนินชันอยู่นะเนี่ย |
ต้องเข็นรถกันท่านี้เลย คงหนักน่าดู |
เดินขึ้นเขาชมป่าไผ่ไปได้สักพัก..ชักจะเหนื่อย ว่าแล้วเลยหันหลังกลับ เดินทอดน่องทิ้งน้ำหนักไปตามแรงโน้มถ่วงของโลกดีกว่า
คนแบกเป้น้ำเงิน ๆ นี่ ดิฉันเองค่า ปาปารัซซี่ที่ไหนมาแอบถ่ายไม่รู้ |
Nonomiya Jinja แปลว่า ศาลเจ้า "โนโนมิยะ" |
เดินออกมาเกือบถึงถนนใหญ่ เจอร้านขายขนมดังโงะร้อน ๆ จ้า อร่อย...แม่ค้าสวย |
บรรยากาศของถนนคนเดินในอาราชิยามา |
ถึงแล้ว สะพานโทเง็ตซึเคียว ไหงมุมนี้ไม่ค่อยเห็นสีต้นไม้เลย แสงแดดแรงไปรึเปล่า ?? |
ขยับเข้าไปอีกหน่อยนึง คนเดินขวักไขว่เต็มไปหมดเลย ครึกครี้น ๆ |
ที่นั่งเล่นริมแม่น้ำรับแดดอุ่น ๆ ก็เยอะ ย้ำ..ถึงแม้จะใกล้เที่ยง แต่ก็เป็นแสงแดดอุ่น ๆ ไม่ผิดหรอกค่ะ ..ไม่ใช่แดดเมืองไทยนี่คะ ฮิฮิ |
นี่!! เต้าหู้ อูด้ง โซบะ ราคาชามละ 300 yen ถูกที่สุดแล้วในทริปนี้!! |
มีที่นั่งข้าง ๆ ร้านเหมือนแผงลอยบ้านเราเลย ลุย! ^-^ |
ที่รู้เพราะตอนที่จะยื่นหน้าเข้าไปสั่ง คุณป้าเจ้าของร้านแกก็บุ้ยใบ้ให้ไปสั่งจากหลังร้านมาก่อน มิน่า คนยืนออ ๆ กัน ไม่ค่อยเป็นคิวเท่าไร (ซึ่งผิดวิสัยคนญี่ปุ่น) ที่แท้เค้ายืนรอฟังคุณป้าประกาศชื่ออาหารนี่เอง เป็นเมนูที่ใครสั่ง คนนั้นก็แสดงตัวมารับไป
ความยากเกิดขึ้นแล้วไง !!
ทว่า..ด้วยความที่คิดว่าไม่น่าจะยาก ถึงแม้ความรู้ภาษาญี่ปุ่นจะเล็กน้อยเพียงปลายหางอึ่ง ก็หาได้สำเหนียกไม่ ว่าแล้วก็ทำตามกติกาเค้าเรย!
1. เดินไปสั่งอาหารหลังร้าน ด้วยการถ่ายรูปหน้าร้านไปจิ้มให้แม่ค้าดู ตามภาพ
2. ดิฉันเลือกมา 3 อย่าง เป็นเต้าหู้ชามซ้ายบนสุด อูดุ้งแห้งล่างซ้าย และโซบะที่โปะด้วยเต้าหู้ทอดตรงกลาง สั่งเสร็จต้องจ่ายตังเลย แล้วไปรอรับอาหารหน้าร้าน
ข้อผิดพลาดคือ
1. ตอนแรก ดิฉันเข้าใจว่าคุณป้าหน้าร้านแกจะเรียกชื่อลูกค้ามารับอาหาร แต่ไม่..มันคือการขานชื่ออาหารที่สั่ง ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว
2. ดิฉันคาดว่า คุณเจ๊หลังร้านจะเขียนชื่ออาหารเป็นภาษาอังกฤษให้ เพื่อที่จะได้รู้ว่าชามทีดิฉันสั่งนั้นเรียกว่าอะไร แต่ไม่...คุณเจ๊ไม่ยอมเขียนให้เลย พยายามจะให้ดิฉันจำชื่ออาหารนั้นให้ได้ท่าเดียว คุณเจ๊พูดชื่ออาหารช้า ๆ 2-3 ครั้ง ดิฉันก็พยายามพูดตาม จนคุณเจ๊ให้ผ่าน
3. ว่าแล้วก็มายืนรอหน้าร้าน จดชื่ออาหารตามสำเนียงที่ได้ยินมา (ไม่รู้ฟังเพี้ยนรึเปล่า แต่ก็ซ้อมจน คุณเจ๊ให้ผ่านแล้วหนิ) แต่เอาเข้าจริง ตอนคุณป้าหน้าร้านขานชื่ออาหารนี่..ฟังไม่ออกเลย เหมือนจะใช่แต่ก็ไม่ใช่ มึนไปหมด สุดท้ายโดนพี่ญี่ปุ่นซิวไปหม่ำทุกที
เวลาผ่านไปนานมาก ๆ ไม่ได้กินซักที ชักเครียด
เริ่มคิดว่า..ไม่น่าเล้ย ทำไมไม่ขอคืนเงินตั้งแต่แรกแล้วเปลี่ยนร้านไปซะนะ ?
ถ้าไปขอ cancel ตอนนี้ คุณเจ๊จะจำได้รึเปล่า ลูกค้าเยอะด้วยสิ..แง..เอาไงดี ไม่ยอมพูดอังกฤษซะด้วยสิ ?
ขณะที่ความเครียดเริ่มครอบงำ เหมือนคุณป้าหน้าร้านจะสังเกตเห็นว่ายัยนี่ยืนตาปริบ ๆ อยู่นานแล้ว สุดท้ายแกจึงถามคุณเจ๊หลังร้านว่าดิฉันสั่งอะไร แล้วก็เลยจัดคิวให้เป็นพิเศษ จนได้กินในที่สุด และดีที่คุณเจ๊จำหน้าดิฉันได้ จึงไม่ต้องจ่ายตังค์เพิ่ม เฮ้อ..เหนื่อยเลยมื้อนี้
ยังไงก็ต้องขอบคุณ คุณป้าและคุณเจ๊ที่ไม่ทอดทิ้งลูกค้าตาดำ ๆ จากเมืองไทยคนนี้ เรื่องผิดพลาดทางเทคนิค ดิฉันขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียว
กว่าจะได้กิน เล่นเอาเกือบบ่ายสอง ได้มาปุ๊ป..โซ๊ยเลย นึกขึ้นได้! ต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระทึก เอ๊ย ที่ระลึกซะหน่อย |
No comments:
Post a Comment