Monday, January 2, 2012

Transit Tour: Korea

วันนี้มีข่าวมาฝากสำหรับคุณ ๆ ที่จะเดินทางไปต่างประเทศและจะต้องไปต่อเครื่องที่ประเทศเกาหลี หากคุณจะต้องรอต่อเครื่องนานเป็นวันล่ะก้อ ที่สนามบินอินชอน (Incheon Airport)เค้ามีบริการแก้เซ็งให้กับผู้โดยสารที่มาต่อเครื่อง ด้วยบริการนำเที่ยวในกรุงโซลที่มีชื่อว่า “Transit Tour”
โดยหลัก ๆ กรุ๊ปทัวร์จะเริ่มออกเดินทางจากสนามบินตอนประมาณ 8.30 am และพาทุกคนกลับมาที่สนามบินภายใน 2.30 pm ด้วยรถ shuttle bus คันกระจุ๋มกระจิ๋มจุผู้โดยสารได้ประมาณ 25 คน มีไกด์นำทางพูดภาษาอังกฤษ และรวมอาหารกลางวัน 1 มื้อ คุณจะ walk in ไปก็ได้ หรือจองผ่าน internet ก็ได้ โดยผ่านทาง website http://www.hanatourintl.com/
ราคาจะอยู่ที่ US$ 10 – US$ 50 ซึ่งคุณจะต้องจ่ายเป็นเงิน US$ เท่านั้น
แรกสุด คุณจะหา Transit Tour เจอได้ยังไง?
ง่ายมากค่ะ เมื่อคุณลงเครื่องที่สนามบินนานาชาติอินชอนแล้ว เดินมาเรื่อย ๆ ตามเส้นทางของผู้โดยสารขาเข้า เมื่อใกล้จะถึงประตูสำหรับผู้โดยสารที่จะต่อเครื่อง (Transfer passengers) อย่าเพิ่งเลี้ยวเข้าไป เพราะมันจะนำพาคุณไปสู่ Terminal ผู้โดยสารขาออกทันที ทีนี้แหละ คุณก็ได้ช็อปปิ้งแต่ใน Duty free เท่านั้น
งงใช่ม้า ...ภาพประกอบมา
จากภาพ ช่อง Transfer passengers จะอยู่ขวามือ ให้เดินตรงไปก่อน โต๊ะ information รอคุณอยู่เบื้องหน้า
เห็นป้าย “? เหลือง ๆ พุ่งเข้าไปเลยค่ะ จะมีป้ายบอกชัดเจนว่า Transit tour ณ จุดนี้อยู่ที่ชั้น 2 ของอาคารผู้โดยสารขาเข้า
สิ่งที่คุณจะต้องมีก็คือ Passport และ Air ticket เพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่ดูว่าคุณเป็นผู้โดยสารที่จะมาต่อเครื่องที่นี่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะให้เข็มกลัดเพื่อติดไว้เป็นสัญลักษณ์ พร้อมกับชี้ทางไปยัง Transit tour Main Desk ซึ่งอยู่ชั้น 1 โดยจะต้องผ่าน Immigration เข้าไป
เข็มกลัดหน้าตาแบบนี้ค่ะ
ผ่าน Immigration อย่าลืมกรอก Arrival Card ก่อนนะจ๊ะ
ถัดจาก Immigration ก็ต้องผ่าน Customs คุณจะต้องกรอกแบบฟอร์ม Customs Declaration Form ว่าคุณไม่ได้พกพาอาวุธ สินค้าแปลกปลอม เนื้อสัตว์ ธัญพืช ฯลฯ เข้ามาในเกาหลี ดังนั้น หลัก ๆ เราไม่ได้ขนอะไรเข้ามาอยู่แล้ว ก็กากบาทในช่อง No ให้หมดเลย (ณ จุดนี้ไม่ได้ถ่ายรูป ไม่แน่ใจว่าเค้าให้ถ่ายรูปได้รึเปล่า)
เสร็จปุ๊บ คุณก็จะได้ออกมาที่บริเวณชั้นหนึ่ง เมื่อแกะรอยตามที่เจ้าหน้าที่บอกมา คุณก็จะพบจุดหมาย
Desk No.41 Transit tour Main Desk!
ว่าแล้วสองมือลวงกระเป๋า สองเท้าก้าวเข้าไป เลือกโปรแกรมทัวร์ที่คุณพึงพอใจ
โปรแกรมที่ดิฉันเลือกคือ “Best of SEOUL” สนนราคา US$ 40
จ่ายตังค์เรียบร้อย รอออกเดินทาง

เมื่อถึงเวลา คุณไกด์ก็มาต้อนรับและพาลูกทัวร์ทั้งหมดไปขึ้น Shuttle bus
ในทริปนี้มีลูกทัวร์ทั้งหมด 22 คน มาจากที่ต่าง ๆ กันและจะไปยังจุดหมายต่าง ๆ กัน เช่น หนุ่มอิตาลีเดินทางมาจากสเปนเพื่อไปเที่ยวนิวซีแลนด์ สามีภรรยาชาวเวียดนามกำลังเดินทางกลับประเทศหลังจากไปเยี่ยมญาติในอเมริกา สาวใหญ่จากอเมริกาพาเพื่อนชาวฟิลิปปินส์ไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ซานฟรานฯ และหนึ่งในนั้น ก็มีสาวไทยที่กำลังจะไปแวนคูเวอร์ด้วย...
ว้าว! ให้ความรู้สึกเหมือนบุพเพอาละวาด คริคริ ๆ
Shuttle bus คันจุ๋มจิ๋ม น่ารัก
ภายใน Shuttle bus
สถานที่แรกคือ คลองชองเกชอน (Cheonggyecheon stream) ในย่าน downtown ที่นักท่องเที่ยวไทยรู้จักกันดี
คลองนี้เปิดตัวเมื่อปี 2005 จากนั้นก็กลายเป็นแหล่งที่ทั้งชาวเกาหลีและนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาแวะเวียน ไม่รู้ทำไม...
งาน Event มากมาย ก็มาจัดกันที่นี่
ใครอ่านออกบ้าง
ถัดจากคลองชองเกชอน คุณไกด์ก็พาไปยังพระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung Palace) ซึ่งเป็นอีกแห่งหนึ่ง ที่ UNESCO จัดให้เป็นมรดกโลกในปี 1997 พระราชวังนี้เคยถูกใช้เป็นที่อยู่ของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โชซอนก่อนที่พระราชวังเคียงบ๊กกุงจะสร้างเสร็จ ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามลงตัวระหว่างธรรมชาติและสถาปัตยกรรม
บริเวณทางเข้าสู่ Main Hall ของพระราชวังชางด๊อกกุง
Main Hall ใช้เป็นที่ว่าราชการของกษัตริย์
บนลานกว้างจะมีเสาที่สลักชื่อของขุนนาง บอกถึงตำแหน่งที่นั่งของเหล่าขุนนางเวลาเข้าเฝ้า ฯ
ทางออกด้านข้างของ Main Hall เชื่อมต่อกับพระราชวังชั้นใน ซึ่งเป็นที่พักของกษัตริย์และพระราชินี
หลังคาไม้ที่ทาสีสวย ๆ แบบนี้ จะมีเฉพาะในส่วนของที่อยู่กษัตริย์และเชื้อพระวงศ์เท่านั้น
ประตูสำหรับสุมไฟในเตาชั้นล่างเพื่อปล่อยไอร้อนขึ้นมาตามพื้น เป็นเทคนิคที่ทำให้พื้นอุ่นแบบโบราณ หรือที่เรียกว่าพื้นอนดล (Ondol floor)
เดินลัดเลาะไปเรื่อย นึกถึงภาพตัวเองใส่ชุดฮันบกเสมือนหนึ่งเป็นนางสนองพระโอษฐ์ของพระราชินี
เข้าสู่โซนที่พักของกษัตริย์และพระราชินี ซึ่งจะอยู่ในอาคารแยกกัน ซ้าย-ขวา
เชื่อมต่อกันด้วยระเบียงไฮโซ
ถัดมาอีกโซนจะเห็นว่าการตกแต่งค่อนข้างธรรมดา ไม่มีการทาสีสวยงาม ลักษณะเป็นบ้านสามัญชน
จากที่ฟังไกด์เล่ามา เหมือนจะเป็นที่อยู่ของพระชายาผู้น่าสงสารที่ถูกอัปเปหิ
แต่กษัตริย์ทรงรักพระชายาองค์นี้มาก ๆ จึงโปรดให้สร้างบ้านไว้ใกล้ ๆ พระราชวัง
ถึงจะเป็นบ้านสามัญชน แต่ก็ใหญ่โตกว่าบ้านทั่วไป
ผลไม้ที่กษัตริย์ทรงปลูกไว้ให้พระชายาเก็บกิน...ไม่ใช่ละ! (อันนี้โม้...อิอิ)
รายการต่อไป แวะกินอาหารกลางวัน มีของให้เลือก 2 อย่าง
ดิฉันเลือก พลุโกกิ ตามสไตล์ Meat lover ^^
อีกจานคือ บิมินบับ เป็นข้าวและผัก...เมนูสุขภาพ มีเครื่องเคียงตามสไตล์เกาหลีที่คนไทยเกินล้านคุ้นเคยกันดี
จากนั้นก็ไปเดินย่อยในย่านของเก่าของที่ระลึก อินซาดง (Insadong) เป็นโอกาสเหมาะที่จะปฏิบัติภารกิจ “ตามหา Skinfood และ Etude
ช่วงบ่าย ๆ ผู้คนคลาคล่ำทีเดียว
ใกล้ปีใหม่แล้วววว อะไรน่ะ...รณรงค์รักการอ่านรึเปล่า?
ออกมาช๊อบปิ้งแก้หนาวกันดีกว่าเนอะ
สถานที่สุดท้าย อยู่ไม่ไกลจากย่านอินซาดง เราแวะไปที่วัดจ๊อกเยซา (Jogyesa Temple) เป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนานิกายเซนในกรุงโซล
Daeungjeon อาคารหลักของวัดจ๊อกเยซามีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ข้างใน

หอระฆัง

สี่สาวมาไหว้พระกัน


สาธุ้! ขอให้ลูกช้างเดินทางโดยสวัสดิภาพด้วยเทิ๊ด..
 จบหนึ่งวันในเกาหลี สถานีต่อไป...แวนคูเวอร์

7 comments:

  1. นั่งเครื่องของอะไรอ่ะคะ

    ReplyDelete
  2. พอดีจะไปโตรอนโต้เหมือนกันเลยค่ะ ^^

    ReplyDelete
  3. กำลังจะไปทรานซิสทัวร์ของฮานะเหมือนกันค่ะ แต่อยากทราบว่าซื้อครีมของพวกสกินฟูด อีทูดี้ แล้วเค้าจะให้เราเอาขึ้นเครื่องได้หรอค่ะ เพราะว่าเค้าไม่ให้เอาครีมขึ้นใช่ไหม ช่วยตอบทีค่า สงสัยจริงๆ

    ReplyDelete
  4. กำลังจะไปทรานซิสทัวร์ของฮานะเหมือนกันค่ะ แต่อยากทราบว่าซื้อครีมของพวกสกินฟูด อีทูดี้ แล้วเค้าจะให้เราเอาขึ้นเครื่องได้หรอค่ะ เพราะว่าเค้าไม่ให้เอาครีมขึ้นใช่ไหม ช่วยตอบทีค่า สงสัยจริงๆ


    รอๆอยากรู้ด้วยคน

    ReplyDelete
  5. กำลังจะไปอเมริกา ซึ่งเครื่องลง 8.30 และออก 20.00
    มี Transit Tour อื่นอีกไหมคะ

    ReplyDelete
  6. ขอบคุณมากๆเลยค่ะสำหรับข้อมูลดีๆและรูปภาพประกอบ ที่ชัดเจนมากๆๆ

    **ขอถามนิดนึงค่ะ แล้วพวกกระเป๋าเดินทางล่ะค่ะ จะเอาไปฝากไว้ตงไหน??? **

    ขอบคุณค่ะ **

    ReplyDelete